วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เปิดตัว“ม.พะเยา”เต็มตัวเดินหน้าทำมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน



พะเยา - มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดตัวเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศ อย่างเป็นทางการแล้ว หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติเป็นมหาวิทยาลัยพะเยา พ.ศ.2553 และมีผลบังคับใช้เป็นมหาวิทยาลัยพะเยาโดยสมบูรณ์
     
       รายงานข่าวจากจังหวัดพะเยา แจ้งว่า มหาวิทยาลัยพะเยา ได้ประกอบพิธีเปิดตัวเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศ อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติเป็นมหาวิทยาลัยพะเยา พ.ศ.2553 และมีผลบังคับใช้เป็นมหาวิทยาลัยพะเยาโดยสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
     
       โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ นายสภามหาวิทยาลัยพะเยา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ,นางวิชดา วังเสมอ นายกเหล่าชาดจังหวัด , นายไพโรจน์ ตันบรรจง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จ.พะเยา , นายไพรัตน์ ตันบรรจง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา , ข้าราชการ และประชาชนในจังหวัดพะเยา กว่า 3,000 คนร่วมพิธีและร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสเปิดตัวมหาวิทยาลัยพะเยาในครั้งนี้ด้วย
     
       ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยพะเยาก่อนได้รับการยกฐานะให้เป็นมหาวิทยาลัยในการกำกับดูแลของรัฐ ได้อยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย นเรศวร ซึ่งครั้งแรกได้มาตั้งวิทยาเขตพะเยา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 ที่โรงเรียนพะเยาพิทยาคม อ.เมืองพะเยา ต่อมาคณะรัฐมนตรี ได้มีมติใช้ชื่อว่า “วิทยาเขตสารสนเทศพะเยา” และในปี พ.ศ.2542 ได้ย้ายการเรียนการสอนมาในที่ตั้งถาวร ที่ ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา บนเนื้อที่ 5,727 ไร่ 
     
       โดยจัดการเรียนการสอบผ่านระบบ VIDEO CONFERENCE มาจาก จ.พิษณุโลก หลังจากนั้น ในปี พ.ศ.2550 “มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาเขตสารวนเทศพะเยา” เปลี่ยนชื่อเป็น “มหาวิทยาลัยนเรศวรพะเยา” เพื่อเตรียมความพร้อมในการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศ และเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2553 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติเป็นมหาวิทยาลัยพะเยา พ.ศ.2553 และประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้เป็นมหาวิทยาลัยพะเยา โดยสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
     
       มหาวิทยาลัยพะเยา ตั้งขึ้นตามนโยบายการขยายโอกาสทางการศึกษา เพื่อตอบสนองการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญหาท้องถิ่นในเขตพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยมีนโยบายของมหาวิทยาลัยคือ เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน และปณิธาน คือ ปัญญาเพื่อความเข้มแข็งชองชุมชน โดยมีเป้าหมายมุ่งพัฒนาให้เป็น “มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ” (Healthy university) เพื่อสานต่อนโยบายดังกล่าว คณะแพทย์ศาสตร์
     
       จึงได้ทำโครงการพัฒนามหาวิทยาลัยสู้องค์กรสร้างเสริมสุขภาพ ปี 2553 มุ่งให้เป็นสถาบันสร้างเสริมสุขภาพ ตามแนวคิดกลวิธีสร้างสุขภาพ 6 อ. คือ ออกกำลังกาย , อาหารปลอดภัย , อนามัยสิ่งแวดล้อม , อารมณ์ดี , อบายมุข และอโรคยา
     
       ปัจจุบันมหาวิทยาลัยพะเยาเปิดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี 62 สาขาวิชา ระดับปริญญาโท 15 สาขาวิชา รวมทั้งสิ้น 77 สาขาวิชา มีนิสิตรวม 11,188 คน



ที่มา http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000177749

วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิยาลัยของพวกเรา อีกมุมหนึ่ง

1.รู้ไหมว่า ม.พะเยาเป็นมหาลัยวิทยาลัยที่ไม่มีนิสิตขี่ รถเครื่อง ในมหาวิทยาลัย เพราะเป็นดอย
2.เมื่อมีลูกเห็บตก ขนาดลุกเห็นจะเท่ากับลุกชิ้นที่เดี๋ยว ปล.หลังคาพรุน
3.เด็กปี 1 ทุกมักชอบไปดูทีวีที่ร้านทอมมาร์ท เพราะว่ามีให้ดุทุกช่อง(UBC)
4.นิสิตทุกคน จะต้องเข้าพิธีบวงสรวงสมเด็พระนเรศวร
5.ม.พะเยา เป็น ที่เดียวที่มีประเพณีเดินขึ้น มอ 4 กม ตามความเช่อว่า จะเรียนจบภายใน 4 ปี
6.พระธาตุทอมมาร์ท ฉายานี้ได้มาจาก......เพราะมีบันได้ขึ้นมาจากลานจอดรถหน้าตึกอธิการ
7.ตึกอธิการบดี ที่เรีบกว่าตึกแหลมมีแรงบันดาลใจในการสร้าง มาจาก พระมาลาเบี่ยง
8.ตึกแหลมนั้น เป้นตึกอธิการบดี และเป็นที่เดียวในประเทศ ที่มียอดแหลม แต่ปัจจุบันไม่แหลมแล้ว เพราะไฟไหม้
9 ตึกแหลมเคยไฟไหม้
10.หอนิสิตชาย 1สมัยนั้น .....ปัจจุบัน ชื่อหอว่า เวียงเชียงแรง เป็นหอเดียวที่ไม่มีโถฉี่ชาย
11.ในมหาลัยจะมีสองหอพักที่ใช้ห้องน้ำรวม
12.ใน การบนบานสมเด็จพระนเรศวรนั้น มีอยู่เรื่องเดียวที่ห้ามเด็ดขาด คือ........ขอไม่ได้จับได้แดง และขอไม่ได้ได้เป็นทหาร เพราะท่านไม่โปรด!!!
13. ททราบหรือไม่ หน้า ม.ฝั่งสะพานลอย เป็นป่าช้าเก่ามาก่อน
14.รถโดยสารสีม่วงมีชื่ออีกอย่างว่า ม่วงสะอื้น เพราะชอบสอื้นื้นเวลาขึ้นดอย ตึกๆๆๆๆอั๊กๆๆๆ
15.เจ้าของร้าน 108 shop ชอบเอาของแถมมาขาย
16.ฤดูฝน ถนนเข้าตึกCE จะเป็นลำธารเล็กๆ
17.ม.พะเยา มีพื้นที่ มากกว่า 3000 ไร่ (ดอย)
18 ใน ม.จะมีเห็ดที่ขึ้นชื่อมากคือเห็ด ถอบ
19 ชาวบ้านมันไปหาของป่าใน ม.
20.NU mart ถูกเรียกว่า ร้านป้าเขียด
21.ใน มอ.จะมีเสาร์โทรสัพท์เพียง 3 คลื่น
22.ป้าสวิง ท่านสามารถใช้บริการซัก อบ รีด ได้ (หอชายเท่านั้น
23.นิสิตปี 1 ที่เรียนวิชา ชีวิตและสุขภาพ จะต้องวิ่งรอบสระว่ายน้ำ
24.ลาน ATM เมื่อก่อนเคยเลี้ยงปลาคราฟ เดี๋ยวนี้หายไปไหนหมด
25.เวียงใช้ในรุ่นพี่ รหัส 46 เป็นรุ่นแรก
26.อาคารเรียน 12 หลัง จะมีบันได้ ให่คุณเดินขึ้นเป็นระยะ
27 ใน ม.พะเยาจะมีต้นดอกเข็มยักษ์ ที่เรียกว่า ต้นอโศก
28 ความสูงระหว่าง โรงอาหารกับตึกแหลม ขี้เมาตกลงมาคงคอหัก
29.นิสิต มักจะชอบนอนหลับในห้อง ภูฯที่มีเบาะสีฟ้า
30.รถโดยสารขึ้นฟรี
31.ที่จอด มอเตอร์หน้า ม.พะเยาไม่เคยมีรถยนต์ไปจอด
32.เมื่อเวลาลงรถ ต้องคำว่า ขอบคุณครับ
33.หากถ้าาเห็นนิสิตหญิงยืนโหนรถแล้ว จงขึ้นคันหลังดีกว่า
34.ห้องสมุดปิด 2 ทุ่ม
35.ห้องคอมself acess ปิด 2 ทุ่ม
36.นิสิตชอบไปหลับที่ห้องสมุด
37.อดีตนายกทักษิณ นำ ฮ.มาจอดที่หน้าลานตึกแหลม (2548) ไฮโชจริง.....สงสัยกลัวทางโค้ง
38 ใต้ตึกแหลมมีห้องน้ำชั้นใต้ดิน
39 อย่าไปหาของกินที่โรงอาหารหลัง 3 ทุ่ม เพราะเขาปิดแล้ว
40. ห้องภูกามยาว 1 เก้าอี้สีแดง
41.รถหน้า ม. หมด สามทุ่ม
42.โรงอาหาร ไม่เคยมีหอยทอดขาย
43.นิสิตชายต้องสละที่ให้นิสิตหญิงนั่งรถโดยสาร ยกเว้น สาวประเภทสอง
44 นิสิต ญ น่องใหญ่ทุกคน
45 ช่วงปลายฝนต้นหนาว ม.พะเยาจะโรแมนติที่สุด
46.แต่ช่วงที่ นิสิตจะเรียนภาคบ่ายมากที่สุดคือ หน้าหนาว
47.บรรยาย ม.พะเยา เหมือนสวิชเชอร์แลนด์เมืองไทย แต่การใช่ชีวิตสิ เหมือนเอธิโอเปีย
48.โรงอาหาร ม.พะเยาไม่มีเพดาน
49. ม.พะเยา ไม่มีสนามกีฬาในร่ม
50.สนามฟุตบอล เราเรียกว่า สนามกีฬาไทยขี้ฝุ่นดินแดง
51.ลานกีฬามีรั่วล้อม
52.ในหน้าฝนคุณจะได้ยินเสียง กบ เขียด ร้องระงม
53 ป้าๆ ที่โรงอาหาร 1 ชอบมาดูรายการคดีเด็ด ทุกวันเสาร์
54.ตัวอักษรข้างอ่างเก้บน้ำมีทั้งหมด 30 ตัว
55.หากอยากกิน ก๋วยเตี๋ยวน้ำพริกกระเหรี่ยง มีขายที่อาคารเรียน 12 หลัง
56 รุ่นพี่ปี 46 เป็นรุ่นที่ได้รับเหรียญสมเด้จพระนเรศวรฯ ในวันรายงานตัวเข้าหอพัก รุ่นแรก และ รุ่นเดียว
57.กุหลาบหลังตึกแหลมจะมีดอกตลอดทั้งปีทั้งชาติ
58.นิสิตปี 46 เป็นรุ่นแรกที่ได้พักหอพักใน เป็นระบบรุ่นแรก
59 พี่ๆ รุ่น 45 ลงไปเคยนอนที่อาคารเีรียนรวม กับ ตึกแหลมมาแล้ว
60.ห้องน้ำในอาคารเีรียนรวมมันจะมีฝักบัว
61. เมื่อก่อนนี้หน้าม.ไม่มีตลาด มีแค่เพิงข้างถนน....ซื้อทีก็ระวังรถสิบล้อจะเสย -*-
62. ลานจอดรถเคยเป็นแต่ดินแดง หน้าฝนเสื้อนิสิตจะมีลวดลายขึ้น ม. เสมอ
63.ก่อนรุ่น 46 การเข้าเมือง ถือว่าเป็นอะไรที่แสนวิเศษ
64.รับน้องสนุกที่สุด มันที่สุด รุ่น 45 เป็นรุ่นสุดท้าย......ก่อนกฎกระทรวงจะออก
65.งานเลี้ยง เฟรชชี่ รุ่น 46 เป็นรุ่นแรกที่มีนักร้องจากค่ายอื่นๆ มา
66.ห้องภูฯ 1 ทำเป็นโรงหนังให้ชาวหอเสมอ (รุ่นหลังยังมีหรือเปล่า)
67.หน้าหนาวกินข้าวที่โรงอาหารช่างเป็นอะไรที่แย่ที่สุดของนิสิตหญิง เพราะลมโกรกเข้าใต้กระโปรง
68.กินข้าวที่โรงอาหารเสร็จเหมือน ออกกำลังกายหลังอาหารเสมอ
69.หน้าฝน บนโรงอาหารจะเห็นกลุ่มฝนมาแต่ไกลโกยได้ก็โกย โกยไม่ทันก็โซ้ยต่อ
70.อยู่ ม.พะเยา เห็นดาวตก บ่อยมากจนชิน
71.เด็ก ม. พะเยา อยู่ที่ไหนก็คิดถึง ม.พะเยา
72.อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำคือแหล่งบันเทิงเดียวที่ใกล้ที่สุดยามค่ำคืน (ตั้งวงกินเหล้าในบรรยากาศ ธรรมชาติ)
73.ทางขึ้น ม. เมื่อก่อนเป็นถนนดินแดงที่มีความชันเกือบตั้งฉาก บิดมอไซด์ขึ้นไปต้องใช้เกียร์ 1 เท่านั้น
74.ลานจอดรถมอไซด์ก่อนขึ้น ม. เมื่อก่อนเป็นป่ารก คืนฝนตกเคยเห็นแสงไฟแดงๆ อยู่บนต้นไม้ด้วย บรึ๋ย~~"
75.อ่างเก็บน้ำบน ม. มีเรือให้พายด้วย(บ่าว สาว ใช้พายจีบกัน(โบร๊านนนน โบราณ)) เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว
76.เมื่อก่อนโรงอาหารอยู่ชั้นล่างสุดของอาคารเรียนรวม
77.บริเวณธนาคาร SCB ก่อนเป็นลานหินอ่อน ใช้นอนรอรถลง ม.
78.ชั้นบนสุดของอาคารเรียนรวม มีห้องของชมรมกีฬา(ที่ไม่มีสมาชิกชมรม 5555+)
79.เมื่อก่อน ถ้าจะเข้า ม. ต้องขับรถผ่านเรือนอธิการ ซึ่งเป็นเนินปราบเซียน ชันโคดๆ บัดนี้ทำถนนใหม่ตัดอ้อมไป เรียบซะ
80.ร้านอาหารที่หรูที่สุดคือร้าน อิ่มจัง แต่ไม่เคยอิ่ม!!!!
81. หอเขียว : เพราะมีสีเขียว / หอL : เพราะ โครงสร้างเป็นรูปตัว L ปัจจุบันเป็นรูปตัวU /บ้านปีกไม้ : ทางเข้าเมืองพะเยา อยู่ห่าง ม. ร่วม 10 กม. แต่มีคนพัก / หอป้ารส  : หอสีฟ้าๆ ตรงสะพานมีหน้าตาเหมือน อานามัย <------เหล่านี้คือหอในตำนาน และยังมีอีกหลายหอที่ผุดตามกันออกมา
82. BM Stargate(ใต้โรงแรมเกทเวย์) คือสุดยอดสถานบันเทิงยามค่ำคืน ที่พวกเราเหล่านิสิต ม.พะเยา แหบ มอไซด์ระยะทางร่วมๆ 20 กม. ลุยฝน ทนหนาว เพื่อเข้าไปแดนซ์กระจาย กระเป๋าตังค์หายชั่งมัน
83.ใต้หอนัมเบอร์วัน มีร้านเกมส์เพียบ เป็นแหล่งอาศัยของชุมชนใต้ดิน
84.สมัยนั้นเอี้ยอะไรก็ได้ขาย ขอแค่มันทำแล้วสุก กินได้ ได้ขายหมด เพราะทางเลือกในการรับประทานไม่ค่อยจะมี นิสิตสมัยนั้นกินได้ทุกอย่าง
85. เพิ่มเติม ข้อ 20 มีป้าเขียด ต้องมีสมุนมือซ้ายคุณป้า นั่นคือ ป้า Burn (มาจาก Burn out) she จะ Burn ทุกเรื่องต่อจากป้าเขียดอีกที
86. เพิ่มสมุนมือ ขวา คือลุงตุ๋ย ขายไส้กรอกทุกชนิด หน้าร้าน เมื่อใดนิสิตหิว เราจะเรียกหา "ไส้กรอกลุงตุ๋ย"
87. ตอนฝนดาวตก หน้าหอในถือเป็นสวรรค์ของนักดูดาวนอนดูริมถนน หน้าหอ.กันเลยทีเดียว
88. ตอนยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ นิสิตหอใน ต้องต่อคิวกันโทรศัพท์ที่ใช้บัตร ตอนนั้นการ์ดโทรศัพท์ ถือเป็นของสะสมไปโดยปริยาย
89. นิสิตม.พะเยา มักจะแก้บนโดยการวิ่งขึ้นลง จากหน้ามหาลัยถึงตัวมหาลัย ไป-กลับก้อ 8 โลแล้ว ยิ่งบนขอเกรด A ต้องวิ่งหลายๆ รอบ
90. ก่อนเริ่มการรับน้องใหม่ทุกครั้ง รุ่นพี่จะทำการไปบนบานศาลกล่าวกับศาลพระนเรศวร ซึ่งเป็นศาลเพียงตาเล็กๆ แต่ตอนนี้สร้างใหม่เป็นศาลที่ใหญ่ และมีลานกว้าง สามารถชมวิวได้ด้วย อยู่บนดอยใกล้อ่างเก็บน้ำ
91. นอกจากเพลงมาร์ช มน. และเพลงมาร์ชคณะแล้ว นิสิตทุกคนต้องร้องเพลง ”โอ้เด็กมน.” ให้ได้ ...ร้องทีไร น้ำตาไหล....คิดถึงบ้าน
92. ที่กว๊านพะเยาและตลาดโต้รุ่ง มักจะเต็มไปด้วยเด็กม.พะเยา ที่มาพร้อมกับเสื้อโค้ทของแต่ละคณะ...
93. เรื่องซ้อน 3 ซ้อน 4 ขับย้อนศร เด็กม.พะเยาเทพ ๆ ทั้งน้าน.................
94. แหล่งช็อปปิ้งของเด็กมน. ก้อคือ ห้างเจริญภัณฑ์ อันเปรียบเสมือน สยามพารากอน เลยก้อว่าได้
95. ก่อนรุ่น 46 ไม่มีใครไม่รู้จัก อาจารย์ สิงห์คำ แกน่ารักนะ ใจดีด้วย
96. นิสิตชายที่จะจีบนิสิตหญิงมน. ต้องมีรถมอไซด์ หรือ เวสป้า……รถยนต์ไม่สนฮ่ะ เวลาขับเข้าเมืองจะไม่ได้Feel
97. จะต้องมีการประกวดดาว-เดือน และมิสอุกาบาต เป็นประจำทุกปี ตอนนี้ไม่เห็นจะมีเลย
98. เลี้ยงส่ง เฮฮา ปาร์ตี้ กินเหล้า อกหัก ร้องไห้ เหงา…..ไปที่ “อ่างแม่ต๋ำ”
99. อาหารประจำชาติของเด็กม.พะเยา ก้อคือ หมูกระทะ ยิ่งวันศุกร์ ร้านหมูกระทะจะเต็มไปด้วยเด็ก ม.พะเยา แต่หน้ามอก็มีอยู่ร้านเดียว

100.รุ่นพี่ปี 2 ที่รับน้องมักจะเดินลงมอตอนสามทุ่มกว่าๆ ทุกวัน
101. ใต้ตึกวิทยาศาสตร์มีกับข้าวที่อร่อยมากแต่ไม่เคยจะกินอิ่ม!!
102. ช่วงเย็น (มืด) ถ้าอยู่ที่ริมอ่างแล้วมองไปที่เรือนเอื้องคำจะเห็นเป็นรูปเรือ
103. ปี 46 ที่เราเป็นน้องใหม่กันอยู่ จะมีหอชาย (หอเวียงลอ 4 หรือเปล่านะ) ที่พัดหลงไปอยู่ส่วนท้ายของหอหญิง (หอริมดอย) และเป็นหอที่ผู้ชายอยากไปอยู่ที่สุด เพราะได้มีโอกาสเหล่สาวได้ถนัดๆ เด็กวิดวะ หรือเด็กเกษตรหลายๆ คน ไม่ได้มีธุระแต่นั่งรถเล่นเพื่อให้เลยไปโฉบแถวหอหญิง เนื่องจากมหาวิทยาลัยห้ามนิสิตชาย เดินผ่านหอนิสิตหญิง..อิอิ..
104. หอเวียงลอ 4 ที่ว่าเนี่ย..สร้างวีรกรรมไว้แยะ..เช่นเวลามีฟุตบอลทีนึง..ที่มักอยู่ช่วงสอบ..ทุกคนจะอ่านหนังสือกัน แต่เราจะได้ยินเสียงเชียร์บอลของนิสิตชายลอยมาตามลม.. ก็มาจากหอเวียงลอ 4 นี่ละ 555+
105. เคยได้ยินกันไหมว่า..นิสิตหญิงหอเอื้องคำ ที่อยู่บนดอย (ปัจจุบันเป็นโรงแรมรองรับแขกไปแล้ว..) เคยโทรศัพท์มาด่านิสิตชายหอเวียงลอ 4 เรื่องเสียงดังเชียร์บอลด้วย เพราะบนดอยมันเงียบ เสียงก้อง..ล่องลอยไปถึงหอเอื้องเลยทีเดียว..คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ จังเพื่อนๆ
106. เคยรู้ไหม..เมื่อก่อนเรากับวับ (การจัดการ)เคยอยู่จัดกิจกรรมเวียงกาหลวงกับน้องๆ ในม. เดินออกจากม.ตอนตี 2 ดาวสวยอย่าบอกใคร
107. การฝึกสันทนาการของพี่ปี 45 ให้น้องปี 46 ยืนคนละฝั่งอ่างเก็บน้ำม.น. แล้วตะโกนร้องเพลง + เต้น..ให้น้ำดู และให้เพื่อนได้ยิน
108. รถเมล์ม.สีม่วงเมื่อก่อน..ดับกลางดอยจนมีเพลงสันทนาการร้องกันสนุกๆ ว่า.. "รถเมล์หน้าม. รถเมล์หน้าม. ยี่ห้อเบนซ์ๆ สองประตู 20 หน้าต่างๆ คนเต็มเอี๊ยดๆ กูโหนทุกวันๆ อารมณ์เสีย ๆดับกลางดอยอีกต่างหากๆ ชั่วโมงจอดคันๆ ..."
109. สันทนาการปี 46 ต่างพากันอิจฉาเด็กเภสัชที่ได้ใส่เสื้อกับสะดอสีแสบทรวงมาเต้นแร้งเต้นกา..เท่ห์ชะมัด
110. การรับน้องปี 46 รุ่นพี่เตรียมงานเป็นเดือน ถึงวันพี่ไม่ได้ทำอะไรเลยแต่นักข่าวมาทำข่าวแล้วเขียนข่าวว่านิสิตม.พะเยา รับน้องโหด เป็นลมร่วงเป็นใบไม้ พวกเราเอกอิ้งร้องไห้ เพราะกำลังรับน้องสนุกๆ แล้วโดนเบรคกลางอากาศ
111. สันทนาการรุ่น 46 ไม่มีมือกลองเพราะมือกลองย้ายไปเป็นพี่วินัย เลยต้องยืมตัวพี่มือกลองปี 45 มาตีกลองให้.. พี่เค้าอยู่ซ้อมให้เราจนรุ่น 47 เลยทีเดียว
112. สันทนาการปี 46 ได้ยินเสียงกลองไม่ได้..ถ้าเรียนอยู่ชั้น 4 ก็จะวิ่งลงมาที่ลาน ATM เพื่อดูว่าใครตีกลอง เต้นด้วยได้ไหม 555+
113. เมื่อก่อนหน้าม.ไม่ค่อยมีอะไร แต่พอเรารุ่น 46 ไปฝึกงาน 3 เดือนกลับมา หน้าม. มีทั้งแว่นท็อปเจริญ ทั้งตลาดขึ้นเป็นดอกเห็ด
114. เมื่อก่อนตอนเราบุกป่าเตรียมรับน้อง..เพื่อนๆ เก็บเห็ดถอบไปแกงกินกันเป็นหม้อเลย (หอไอ้บาย บุปผา 555+ ชิมิ เค้าได้ยินมา)
115. ในมอ จะเต็มไปด้วยเรื่องผี อาทิเช่น รถเมล์ม่วงรอบสุดท้าย,ห้องน้ำ อาคารเรียนรวม ชั้นบนสุด,ผีผู้หญิงผมยาว ชุดขาว แต่ละเรื่อง น่ากลัวทั้งน้านนน
116. ห้องภูกามยาว 7 เป็นห้องที่นิสิตเลิกเรียนกันเร็วที่สุด เนื่องจากห้องนี้ มีผีดุ ไม่มีวิชาไหนทีเลิกหลังสองทุ่ม แค่ทุ่มกว่าๆอาจารย์ก็จะรีบปล่อยก่อนทันที
117. นิสิตหญิง ปี 1 ที่อยู่หอใน เช่นเกือบทุกคน จะต้องเจอผีอำ หรือไม่ก็ผู้หญิงผมยาว ชุดขาวโผล่มาให้เห็นบ่อยๆ
118. หอชาย นิสิตสอง มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งคือ นิสิตสยอง เนื่องจากเจอผีกันบ่อย
119. แหล่งช็อปปิ้งยอดฮิตของหน้ามอ คือ คลองถม ไม่ว่าจะเลิกเรียนเย็นแค่ไหน ก็ต้องไปให้ได้ เมื่อก่อน มีทุกวันอังคาร เดี๋ยวนี้ ขยันมี หลายวัน
120. เด็กท่องเที่ยว รุ่น 48 เป็นรุ่นแรกที่ได้ขึ้นเครื่องบิน ตอนออกทริป ก้าวหน้า ก้าวไกล จริงๆ
121. ร้านป้าหนู กับร้านพี่อั๋น เป็นร้านขายอาหาร ที่นิสิตชอบไปนั่งกินข้าวกัน ไม่ว่าจะกลางวัน หรือเย็น
122.ร้าน Friendship เป็นแหล่งรวมเลี้ยงน้องๆสายรหัส หรือน้องเทค นั่งกินไอติมไป คุยไป และไม่มีทีท่า จะลุกออกจากร้านไปง่ายๆ
123. พอถึงเวลาสามทุ่มปุ๊บ ยามที่หน้ามอ ก็จะเป่านกหวีด แล้วเด็กปีหนึ่งก็จะรีบวิ่งโกยอ้าว เพื่อไปให้ทัน รถเมล์มอรอบสุดท้าย ไม่งั้นอดกลับเข้ามอ
124. หน้ามอเซ็นเตอร์ ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อมาเป็น ตลาดยิ่งเจริญ เเก้เคล็ด เนื่องจาก มีร้านอาหารไปเปิดร้านได้ไม่นาน ก็ต้องเซ้ง เพราะฮวงจุ้ยไม่ดี
125. หอแม่พลอย เยื้องหน้ามอไปหน่อย เจ้าของชื่อดาบ แต่คนในหอ เข้าใจผิดว่าเป็นตำรวจ เพระเห็นเรียกกันว่า ลุงดาบๆ
126.หากใครกินเหล้า แล้วส่งเสียงดัง ลุงดาบก็จะเข้ามาเตือนพร้อมกับวลีประจำ "สี่ทุ่มเลิก" ถ้าไม่เลิกจะเรียกตำรวจมายกรถ (ดุโคดด)
127. วิชาจิตวิทยา ใครเรียนแล้วได้เกรด A คนนั้นถือว่าบ้า แต่ถ้า C ลงไป ถือว่าอาการปกติ
128. ทางเดินขึ้นแปลงเกษตร เวลาเห็นรถขับตามมา ต้องรีบวิ่ง ถ้าวิ่งไม่ทันให้หาอะไรคลุมหัวไว้ ไม่งั้นได้เปลี่ยนสีผมแบบไม่ได้ตั้งใจแน่ๆ
129. นิสิตหญิงที่ใส่กระโปรงพีชไปเรียน แล้วเดินไปกินข้าว ที่โรง 1 แทบทุกคน จะกลายเป็น มาริลิน มอนโร (เพราะลมแรง กระโปรงเปิด ต้องคอยจับกระโปรงตลอดการเดิน)
130. ที่นี่ บางวันมีสามฤดู
131.เราเรียกนักศึกษาที่นี่ ว่า "นิสิต"
132.ลานสมเด็จนี่เองจะมีช่วงคึกคักมากๆที่สุดในรอบปี คือ สอบมิดเทอม และช่วงสอบไฟนอลเท่านั้น
133.สิ่งที่นิสิตมักบน สมเด็จเสมอคือ วิ่งรอบอ่างหลวง
134.จะมีรถเมล์เก่าคัดหนึ่งซึ่งดัดแปลงเป็นรถคนงาน เราเรียกกันว่ารถโพร์โมต
135.น้องปีหนึ่งจะต้องแต่งตัวถูกระเบียบ น้องผู้หญิงใส่เสื้อนิสิตที่เชยที่สุด คือเสื้อไม่มีสาบ ติดกระดุมคอ กระโปรงคลุมทรงเอคลุมเข่าสีดำ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ ห้ามมีลวดลาย น้องผู้ชายใส่เชิตขาวแขนยาว ผูกไทด์สีเทา กางเกงสแล็ค รองเท้าหนัง ห้อยป้ายชื่อ
136.ช่วงเทอมหนึ่ง น้องปีหนึ่งทุกคนจะได้รับการบอกกล่าวให้ไหว้รุ่นพี่และอาจารย์ที่เดินผ่าน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อรุ่นพี่หรืออาจารย์เดินผ่าน จะมีน้องๆซึ่งแต่งตัวถูกระเบียบไหว้และร้องทักว่า "พี่คะ/ครับ สวัสดีค่ะ/ครับ"
137.ช่วงก่อนเปิดเทอม 1 จะมีการจัดค่ายให้น้องๆ ปี 1 มาอยู่รวมกันทำความรู้จักกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน เรียกว่า "Frist step Camp" โดยน้องปีหนึ่งจะได้รับการบายศรีสู่ขวัญ และผูกข้อมือ
138.ชื่อเดิมของ ม.พะเยาคือ "มหาวิทยาลัยนเรศวรพะเยา"
139.ผับหน้า มอยอดนิยมคือ น็อค ผับ สามทุ่มไม่มีโต๊ะแล้ว ปล.ก็มันมีที่เดียวนิ 555+

มหาวิทยาลัยพะเยา รับตรง ปี 54


        มหาวิทยาลัยพะเยา จะดำเนินการรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยพะเยา ระดับปริญญาตรี ระบบรับตรง (โครงการเฉพาะด้าน) ประจำปีการศึกษา 2554 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2553
         ประเภทของโครงการ         1. โครงการนักเรียนเรียนดี
         2. โครงการสำหรับโควตาแหล่งฝึก / โควตาเทศบาลท่าจำปี จังหวัดพะเยา
         3. โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน
         3.1 เพื่อพัฒนาทักษะด้านเกษตรกร
         3.2 เพื่อพัฒนาทักษะด้านหมอเมือง
         3.3 เพื่อพัฒนาทักษะด้านสาธารณสุข
         3.4 เพื่อผลิตบัณฑิตสาธารณสุขศาสตร์เพื่อภาคอุตสาหกรรม
         3.5 เพื่อผลิตนักภูมิสารสนเทศสู่ท้องถิ่น
         3.6 เพื่อผู้มีความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์
         3.7 ส่งเสริมนักเรียนผู้มีความเป็นเลิศทางด้านกีฬา
         3.8 ส่งเสริมนักเรียนผู้มีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการสาขาวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และคณิตศาสตร์

          โครงการนักเรียนเรียนดี         เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาที่กำลังศึกษาในโรงเรียนหรือสถานศึกษาใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน และพะเยา  มีผลการเรียนดี มีทัศนคติที่ดีและมีความมุ่งมั่นในการศึกษา ณ มหาวิทยาลัยพะเยา
         คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร         1.มีสัญชาติไทย หรือเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย
         2.เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญในโครงการจัดการศึกษาปกติของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน หรือเป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นเรียนปีการศึกษาสุดท้ายของโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน และพะเยา
         3.ต้องเป็นผู้ปราศจากโรคเหล่านี้ คือ โรคเรื้อน วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการน่ารังเกียจ โรคติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรงและโรคพิษสุราเรื้อรัง
         4.ไม่เป็นผู้ที่มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (Psychosis) โรคประสาทรุนแรง (Severe neurosis) หรือ โรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
         5.ไม่เป็นผู้ที่มีโรคติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา เช่น โรคลมชัก โรคหัวใจ ระดับรุนแรง โรคความดันโลหิตสูงรุนแรง โรคภาวะไตวายเรื้อรัง โรคติดสารเสพติดให้โทษ
         6.ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในกรณีความผิดอันกระทำโดยประมาทหรือความผิดอันเป็นลหุโทษ
         7.ต้องมีผลการทดสอบความถนัดทั่วไป(GAT) ครั้งที่ 2/2553 (เดือนกรกฏาคม)
         สำนักวิชาเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ         เปิดรับสมัครหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต จำนวน 6 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ (พืชศาสตร์) สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ (สัตวศาสตร์) สาขาวิชาการประมง สาขาวิชาอุตสาหกรรมเกษตร สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ สาขาวิชาการผลิตพืชอุตสาหกรรม ระยะเวลาในการศึกษา 4 ปี
         คุณสมบัติเฉพาะ         1. ผู้สมัครต้องมีผลการเรียนเฉลี่ย 4 ภาคเรียนไม่ตํ่ากว่า 2.30

         สำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร         เปิดรับสมัครหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต 3 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิชาภูมิสารสนเทศศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต 1 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต 1 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ระยะเวลาในการศึกษา 4 ปี
         คุณสมบัติเฉพาะ         1. ผู้สมัครต้องมีผลการเรียนเฉลี่ย 4 ภาคเรียนไม่ตํ่ากว่า 2.50 เพื่อประโยชน์ต่อการเรียนการสอนสำหรับรายวิชาในหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชากายภาพบำบัด ซึ่งมีการเรียนทั้งภาคบรรยายและภาคปฏิบัติการที่ต้องฝึกให้การรักษาทางกายภาพบำบัดแก่ผู้ป่วย ผู้สมัครเข้าศึกษาจะต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง                  
         2.เป็นผู้ปราศจากโรค อาการของโรคและปราศจากความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ซึ่งผู้สมัครเข้าศึกษาต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
         2.1 ไม่มีความพิการใดๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
         2.2 ผู้สมัครต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร
         2.3 ผู้สมัครต้องไม่มีความพิการทางสายตา ได้แก่ ตาบอดหนึ่งข้างหรือทั้งสองข้าง
         2.4 ผู้สมัครต้องไม่มีภาวะหูหนวกหรือหูตึง จากความผิดปกติทางระบบประสาทและการได้ยิน
         3. ผู้สมัครเข้าศึกษาสาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ จะต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือความพิการ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพ ดังต่อไปนี้
         3.1 มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการปฏิบัติงาน
         3.2 ความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
         3.2.1 สายตาไม่ปกติ เมื่อรักษาโดยใช้แว่นแล้วยังมีสายตาตํ่ากว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
         3.2.2 สายตาข้างดีตํ่ากว่า G/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
         3.2.3 ไม่สามารถมองเห็นภาพเป็นสามมิติ
         3.2.4 หูหนวกหรือหูตึง (Threshold ของการได้ยินสูงกว่า 40 dB) จากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (Sensorineural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
         4. ตาบอดสีชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
         5. โรคหรือความพิการอื่นๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการ แพทย์ผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ทั้งนี้คณบดีคณะ /อธิการบดีมหาวิทยาลัย อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
         สำนักวิชาแพทยศาสตร์         เปิดรับสมัครหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต จำนวน 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ (แขนงวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมและแขนงวิชาอนามัยชุมชน) สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย หลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต ระยะเวลาในการศึกษา 4 ปี
         สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ โครงการสำหรับโควตาแหล่งฝึก/โควตาเทศบาลนคราเชียงราย และโควตาเทศบาลท่าจำปี จังหวัดพะเยา ประจำปีการศึกษา 2554 
         ประเภทโควตาแหล่งฝึก/โควตาเทศบาลท่าจำปี จังหวัดพะเยา (จำนวน 16 คน) ได้แก่         1. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงราย จำนวน 10 คน
         2. โรงพยาบาลพาน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จำนวน 2 คน
         3. เทศบาลนครเชียงราย จังหวัดเชียงราย จำนวน 3 คน
         4. เทศบาลตำบลท่าจำปี จังหวัดพะเยา จำนวน 1 คน
         หมายเหตุ ผู้สมัครสามารถเลือกได้เพียงประเภทเดียวเท่านั้น
         คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร         1.มีสัญชาติไทยหรือเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย
         2.ประเภทโควตาแหล่งฝึกภาคปฏิบัติ ผู้สมัครต้องมีภูมิลำเนา ดังนี้
         2.1โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงรายผู้สมัครต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตจ.เชียงรายไม่น้อยกว่า 1 ปี
         2.2โรงพยาบาลพาน จังหวัดเชียงรายผู้สมัครต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ไม่น้อยกว่า1 ปี
         3.ประเภทโควตาเทศบาลนครเชียงราย จังหวัดเชียงราย ผู้สมัครต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในเขต จังหวัดเชียงราย ไม่น้อยกว่า 1 ปี
         4.ประเภทโควตาเทศบาลท่าจำปี จังหวัดพะเยา ผู้สมัครต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในเขต จังหวัดพะเยา ไม่น้อยกว่า 1 ปี หมายเหตุ กรณีผู้สมัครอาศัยอยู่ในภูมิลำเนาไม่ครบ 1 ปี หาก บิดา – มารดาของผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่โควตาที่สมัครเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี สามารถสมัครได้
         5.เป็นผู้ที่มีความประพฤติเรียบร้อยและรับรองต่อมหาวิทยาลัยได้ว่าจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็ความสามารถ และจะปฏิบัติตามกฎ / ระเบียบ / ข้อบังคับของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่แล้ว หรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดทุกประการ
         6.ต้องเป็นผู้ปราศจากโรคเหล่านี้ คือ โรคเรื้อน วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการน่ารังเกียจ โรคติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรงและโรคพิษสุราเรื้อรัง
         7.ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในกรณีความผิดอันกระทำโดยประมาทหรือความผิดอันเป็นลหุโทษ
         8.ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
         9.ไม่เป็นผู้ที่มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (Psychosis) โรคประสาทรุนแรง (Severe neurosis) หรือ โรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
         10.ไม่เป็นผู้ที่มีโรคติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ได้แก่
         10.1โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยมีการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
         10.2โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
         10.3โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะ อย่างถาวร
         10.4ภาวะไตวายเรื้อรัง
         10.5โรคติดสารเสพติดให้โทษ
         11.ไม่เป็นผู้ที่มีตาบอดสีชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง และไม่เป็นผู้มีความผิดปกติในการเห็นภาพโดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
         11.1สายตาไม่ปกติ เมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วมีสายตาตํ่ากว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
         11.2สายตาข้างดีตํ่ากว่า G/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
         11.3ไม่สามารถมองเห็นภาพเป็นสามมิติ
         11.4หูหนวกหรือหูตึง (threshold ของการได้ยินสูงกว่า 40 dB.) จากความผิดปกติทาง ประสาทและการ ได้ยิน (sensorincural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
         11.5โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็น อุปสรรค ต่อการศึกษา ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยพะเยา อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
         1.2ต้องเป็นผู้ที่ศึกษาในกลุ่มเน้นวิทยาศาสตร์
         13.ต้องเป็นผู้ผ่านการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และผ่านการทดสอบความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) ครั้งที่2/2553 (เดือนกรกฎาคม)
         เกณฑ์การคัดเลือก         -ผลการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) 30 %
         -ผลการทดสอบความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT 2) 50 %
         -ผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ปพ.1) 4 ภาคเรียน 20 %
         หมายเหตุ ผลคะแนนรวมกันแล้วนำค่านํ้าหนักคะแนนรวม มาพิจารณาเปรียบเทียบเรียงลำดับที่จากมากไปหาน้อยของผู้สมัครในแต่ละประเภทที่กำหนดไว้
         โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน         มหาวิทยาลัยพะเยา จะดำเนินการรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยพะเยา ระดับปริญญาตรี โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน ประจำปีการศึกษา 2554 ให้แก่นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 โดยแยกเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้
         1.โครงการเพื่อพัฒนาทักษะด้านเกษตรกร
         2.โครงการเพื่อพัฒนาทักษะด้านหมอเมือง
         3.โครงการเพื่อพัฒนาทักษะด้านสาธารณสุข
         4.โครงการเพื่อผลิตบัณฑิตสาธารณสุขศาสตร์เพื่อภาคอุตสาหกรรม
         5.โครงการเพื่อผลิตนักภูมิสาสนเทศสู่ท้องถิ่น
         6.โครงการเพื่อผู้มีความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์
         7.โครงการส่งเสริมนักเรียนผู้มีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการสาขาคณิตศาตร์ วิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา
         8.โครงการส่งเสริมนักเรียนผู้มีความเป็นเลิศทางด้านกีฬา
         คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร         1.มีสัญชาติไทย หรือเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย
         2.เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญ โครงการจัดการศึกษาปกติของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน หรือ เป็นนักศึกษา หรือ ผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นเรียนปีการศึกษาสุดท้ายของโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา
         3.ไม่เป็นบุคคลทุพพลภาพ ไร้ความสามารถ จิตฟั่นเฟือน และปราศจากโรคเหล่านี้ คือ โรคเรื้อน วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะปรากฏอาการน่ารังเกียจ โรคติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง โรคพิษสุราเรื้อรัง
         4.ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในกรณีความผิดอันกระทำโดยประมาทหรือความผิดอันเป็นลหุโทษ
         หลักฐานประกอบการสมัคร         1.ใบสมัครที่สั่งพิมพ์จากเว็บไซต์ http://www.admission.pyo.nu.ac.th/ และติดรูปถ่ายหน้าตรง (รูปสีหรือขาว-ดำ) ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตาดำ ขนาด 1 นิ้ว (ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 1 รูป ตรงมุมขวาของใบสมัคร
         2.ใบแสดงผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ปพ.1) 4 ภาคเรียน โดยมีตราโรงเรียน / สถานศึกษาประทับตรา 1 ฉบับ
         3.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
         4.สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
         5.สำเนาการเปลี่ยนชื่อหรือสกุล (ถ้ามี) (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
         6.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของบุคคลตามข้อ 3.1, 3.2
         7.หลักฐานใบประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย หรือเอกสารยืนยันได้ว่าเป็นผู้ประกอบอาชีพการแพทย์แผนไทยของบุคคลในข้อ 3.1, 3.2
         8.หนังสือรับรองความเป็นบุคคลที่เป็นทายาทของแพทย์แผนไทยหรือหมอพื้นบ้าน หรือเป็นญาติที่สืบสายโลหิตโดยตรง รับรองโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หรือผู้ที่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมอบหมายให้มีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติราชการแทนในเรื่องที่เกี่ยวข้อง หรือผู้บังคับบัญชาสูงสุด ให้มีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติราชการแทนในหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องที่เกี่ยวข้องของจังหวัดนั้น ๆ เช่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาล
         9.ใบรับรองความประพฤติจากสถานศึกษา
         10.แผนที่ตั้งบ้านโดยสังเขป
         หมายเหตุ หากปรากฏในภายหลังว่า ผู้สมัครขาดคุณสมบัติในข้อในข้อหนึ่ง หรือตรวจสอบพบในภายหลังว่าข้อความที่ได้แจ้งไว้ในใบสมัครเป็นเท็จ หรือหลักฐานประกอบการสมัครเป็นเอกสารเท็จหรือปลอม ผู้สมัครจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการรับคัดเลือกครั้งนี้ แม้ว่าผู้สมัครจะได้สมัคร หรือได้ผ่านการคัดเลือกแล้วก็ตาม นอกจากนี้ผู้สมัครยังอาจถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายด้วย
         เกณฑ์การคัดเลือก         -ผลการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) 80 %
         -ผลการการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ปพ.1) 4 ภาคเรียน 20 %
         รวมกันแล้วนำค่านํ้าหนักคะแนนรวมทั้งสิ้นมาพิจารณาเปรียบเทียบเรียงลำดับที่จากมากไปหาน้อย
         ส่งใบสมัครได้ที่งานรับเข้าศึกษา ส่วนงานบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา ต.แม่กา อ.เมือง จังหวัด พะเยา 56000


มหาวิทยาลัยพะเยา 


           เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาล ตั้งอยู่ในจังหวัดพะเยา เดิมเป็นวิทยาเขตในสังกัดมหาวิทยาลัยนเรศวร ต่อมาได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยพะเยา พ.ศ. 2553 เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553จึงถือได้ว่ามหาวิทยาลัยพะเยาได้แยกออกจากมหาวิทยาลัยนเรศวร และเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศอย่างเต็มรูปแบบ และจะเปิดตัว มหาวิทยาลัยในวันที่ 17 ธันวาคม 2553 นี้